อภินิหารตํานานแห่งนาร์เนีย 3 : ผจญภัยโพ้นทะเล (The Chronicles of Narnia : The Voyage of The Dawn Treader)
การผจญภัยอันยิ่งใหญ่ของ “อภินิหารตำนานแห่งนาร์เนีย” ตอนที่3ถูกตีพิมพ์เมื่อปี 1952 ในหนังสือซีรี่ย์ทั้ง 7 เล่มของ ซี.เอส.ลูอิส ที่มีชื่อว่า “The Chronicles of Narnia” เหตุการณ์เรื่องราวเกี่ยวกับชาวนาร์เนียในอีก3 ปี ถัดจากนวนิยายก่อนหน้านั้นตอน “เจ้าชายแคสเปี้ยน” ขณะที่สองพี่น้องพรีเวนซี่คนโตต้องไกลห่างไป – ปีเตอร์กำลังเรียนอยู่ในช่วงสอบเข้ามหาวิทยาลัย; ซูซานใช้เวลาในช่วงวันหยุดที่อเมริกา – สองพี่น้องคนเล็กอย่างลูซี่และเอ็ดมันด์ต้องฝืนใจเดินทางไปเยี่ยมญาติที่บ้านของเขาซึ่งใกล้กับแคมบริดจ์ในยามสงครามที่อังกฤษ, ประมาณปี1943 ความท้าทายอันยิ่งใหญ่ของลูซี่และเอ็ดมันด์กำลังเกิดขึ้นไปพร้อมกับลูกพี่ลูกน้องจอมน่ารำคาญอย่างยูซตาสคลาเรนซ์ สครับบ์ – จนกระทั่งสามเด็กน้อยได้ก้าวข้ามผ่านภาพวาดของเรือดอว์นเทรดเดอร์เรือเดินสมุทรอันยิ่งใหญ่ที่กำลังแล่นอยู่ ดูน่าจับตาด้วยเหล่ามังกร (หัวเรือที่พรรณาถึงหัวมังกร; ท้ายเรืออันน่าเกรงขาม; และด้านข้างที่ตกแต่งด้วยกาบขวาและกาบซ้ายเรือ)
ผ้า ใบก็กลับมีชีวิตขึ้นมาอย่างกะทันหันโดยไม่สามารถหาคำอธิบายได้เกิดน้ำท่วมใน ห้องและเด็กๆต่างจมลงใต้น้ำก่อนที่จะเข้าไปสู่มหาสมุทรตะวันออกอันยิ่งใหญ่แห่ง นาร์เนียพวกเขาได้รับการช่วยชีวิตจากกษัตริย์แคสเปี้ยนและเหล่าลูกเรือขึ้น ไปบนเรือดอว์นเทรดเดอร์เรือที่มีเสากระโดงอันเดียวกันกับที่บรรยายออกมาให้ เห็นทางผลงานศิลปะเอ็ดมันด์และลูซี่ตื่นเต้นที่จะได้กลับไปยังดินแดนที่ ครั้งหนึ่งพวกเขาได้ปกครองในฐานะกษัตริย์และราชินีผู้สูงส่ง; ยูซตาสจอมวีนซึ่งเป็นสมาชิกคนใหม่สำหรับโลกนี้มีความสนใจอย่างเพียงเล็กน้อย ในไม่นานทั้งสามก็ได้เรียนรู้ถึงเหตุผลในการเดินทางของแคสเปี้ยนไปทางตะวันออก: แคสเปี้ยนกำลังทำตามคำสัตย์สาบานแด่บิดาผู้ถูกสังหารเพื่อค้นหาลอร์ดที่หายไปทั้ง7 แห่งเทลมาร์ การเดินทางได้พาพวกเขาไปยังเกาะทั้ง5 ที่แต่ละแห่งได้นำมหันตภัยและการผจญภัยอันไม่คาดฝันมาสู่พวกลูกเรือและแต่ละ แห่งมีสิ่งซ่อนเร้นอันเย้ายวนใจซ่อนอยู่ในตัวของมันเองแคสเปี้ยนและลูกทีม ของเขาพบการคงอยู่ของควันชั่วร้ายสีเขียวที่ไม่ได้มีอานุภาพในการลักพาผู้คนไปเท่านั้นแต่ยังหมายถึงจิตใจของพวกเขาด้วย
โค เรียอคินผู้วิเศษชราที่ชาญฉลาดอธิบายให้แคสเปี้ยนและเหล่าพรีเวนซี่ฟังว่า การทำลายเวทมนตร์อันชั่วร้ายนี้ได้พวกเขาต้องพบลอร์ดทั้งเจ็ดและนำดาบแต่ละ เล่มกลับมามอบให้พวกเขาโดยอัสลานเป็นผู้ปกป้องนาร์เนียเพื่อรวบรวมนำไปวาง ไว้บนโต๊ะอาหารอัสลานดาบจะมอบพลังอำนาจให้พวกเขา เพื่อเอาชนะหมอกและแม่มด หากไม่มีการรวบรวมของดาบทั้งเจ็ดแล้วพวกเขาและนาร์เนียจะต้องถูกทำลาย
ภารกิจ ของเหล่านักเดินทางเป็นเรื่องน่าหวาดกลัวเมื่อพวกเขาต้องเสี่ยงภัยไปกับ คลื่นลมที่รุนแรงในทะเลและงูทะเลอันโหดร้ายท่ามกลางภัยอันตรายอื่นๆเมื่อพวก เขาลงเรือไปในการเดินทางที่พลิกผันชีวิตความกล้าหาญและความเชื่อทั้งหลายของ พวกเขาถูกยั่วยวนและทดสอบในชะตากรรมของการเดินเรือและเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ พาพวกเขาเดินทางไปไกลยังขอบโลก
ขณะที่หนังสือเล่มแรกของลูอิสในชุดหนังสือนาร์เนียที่มีชื่อตอนว่า“ราชสีห์, แม่มดกับตู้พิศวง” อาจเป็นซีรี่ย์ที่โด่งดังและได้รับความนิยมมากที่สุดสาวกจำนวนมากของเรื่องราวสุดคลาสสิคของลูอิสกล่าวว่า “อภินิหารตำนานแห่งนาร์เนีย: ผจญภัยโพ้นทะเล” เป็นตอนที่ดีที่สุดของ“นาร์เนีย” ในทั้งหมดเจ็ดตอน “มั่นใจได้เลยว่าเป็นตอนหนึ่งที่น่าหลงใหลที่สุดของหนังสือในซีรี่ย์” ผู้อำนวยการสร้างแอนดรูว์ อดัมสัน กล่าวว่า “‘อภินิหารตำนานแห่งนาร์เนีย’ หวนคืนสู่ความพิศวง, เวทมนตร์, ความน่ากลัวและการผจญภัยของ ‘ราชสีห์, แม่มดกับตู้พิศวง’”
สำหรับการดัดแปลง“นาร์เนีย” ของเขาในภาคที่สามจากหนังสือมาสู่จอภาพยนตร์ (พร้อมกับผู้ร่วมเขียนบทภาพยนตร์กันมาอย่างยาวนานคริสโตเฟอร์มาร์คัส และ ไมเคิล เพโทรนี่) ผู้เขียนบทภาพยนตร์สตีเฟ่น แมคฟีลี่ กล่าวว่า “ใน แง่ของความท้าทายในการเขียนบทภาพยนตร์คือการรักษารสชาติเฉพาะตัวของการผจญ ภัยในแต่ละเกาะโดยที่ไม่ทำให้ภาพยนตร์มีฉากต่างๆมากมาย ภาพยนตร์ควรรู้สึกได้ถึงเศษเสี้ยวของภาพยนตร์สองภาคก่อนที่เป็นการรวมตัวกัน ของชาวนาร์เนียผู้กล้าหาญและยิ่งใหญ่ในเวลาเดียวกันก็มีการเพิ่มดินแดนต่างๆ, ประเภทและเหตุการณ์ต่างๆที่เราไม่ได้พบเจอในเรื่องราวที่ผ่านมา”
ผู้นำทีมของภาพยนตร์แฟรนไชส์คนใหม่อย่างไมเคิล แอ็ปเท็ดถูกดึงมาร่วมโปรเจ็กต์ได้เพราะ เขากล่าวว่า “ภาพยนตร์เกี่ยวกับการเดินทางโดยมี 2 สิ่งที่เกิดพร้อมกันอย่างแรกคือการผจญภัยผ่านคลื่นลมทะเลที่อันตรายโดยไม่ ได้รับอนุญาตและอีกอย่างคือสิ่งที่อยู่ภายในตัวของเขาเองเมื่อพวกเขาเติบโต ขึ้นเป็นผู้ใหญ่อย่างเช่นที่พวกเขาเอาชนะพลังแห่งความชั่วร้ายที่พวกเขาพบใน การเดินทางพวกเขาจึงเรียนรู้การจัดการกับสิ่งล่อใจต่างๆและทำเช่นนั้นเพื่อ ค้นพบตัวตนที่แท้จริงของพวกเขานั่นคือสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้ในนาร์เนีย ฉะนั้นสุดท้ายในเรื่องราวของเราแล้วพวกเขาจะพร้อมออกเดินทางไปตามชีวิตของ เขานั่นเป็นรูปแบบทั่วไปที่ลูอิสนำเสนอเอาไว้ในภาพยนตร์ของเขา”
ขณะที่ยังคงรักษาความรู้สึก, อารมณ์และตัวละครต่างๆที่แท้จริงของหนังสือเอาไว้ผู้สร้างภาพยนตร์ต้องมีการปรับตัวอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพื่อนำเรื่องราวของลูอิสในหนังสือมาสู่จอภาพยนตร์แอ็ปเท็ดอธิบายว่า “เรื่องราวในหนังสือถักทออยู่รอบๆการค้นหาลอร์ดทั้งเจ็ดของแคสเปี้ยน แต่ในภาพยนตร์, ภารกิจคือเพื่อดาบทั้งเจ็ดการคุกคามของหมอกสีเขียวอย่างที่บรรยายเอาไว้ในภาพยนตร์ของเราไม่ได้ซึ้งจับใจมากในหนังสือ ‘ผจญภัยโพ้นทะเล’ – แม้ว่ามันจะมีการปรากฏให้เห็นในหนังสือต่อมา”
“ในภาพยนตร์ภารกิจสำหรับดาบทั้งเจ็ดเล่มคือการเสริมความแกร่งเป้าหมายในการเดินทางของแคสเปี้ยนไปสู่ขอบโลก” ผู้อำนวยการส้รางบริหารดักลาส กรีแชม อธิบายเพิ่มกรีแชมเป็นลูกเลี้ยงของ ซี.เอส.ลูอิสได้ทำหน้าที่นำหนังสือของลูอิสสู่จอภาพยนตร์มาทั้งชีวิต “มาตรฐาน อันเข้มงวดของภาพยนตร์คือการเพิ่มเติมขึ้นจากเนื้อเรื่องในหนังสือเกี่ยวกับ ลอร์ดทั้งเจ็ดแห่งเทลมาร์และถูกเพิ่มเข้ามาเพื่อช่วยขับเคลื่อนเรื่องราวให้ ก้าวต่อไปข้างหน้าเพื่อรักษาความตราตรึงใจให้แก่ผู้ชม”
ผู้สร้างภาพยนตร์ต่างๆยังระวังถึงการรักษาใจความหลักของหนังสือที่สมบูรณ์ “อภินิหารตำนานแห่งนาร์เนีย: ผจญภัยโพ้นทะเลเป็นเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ที่เกี่ยวกับสิ่งยั่วยวนใจ” กรีแชมกล่าวว่า “ตลอดการเดินทางแคสเปี้ยน, ยูซตาส, ลู ซี่และเอ็ดมันด์รวมไปถึงลูกเรือทั้งหมดของเรือดอว์นเทรดเดอร์ต้องเผชิญหน้า กับความท้าทายและการผจญภัยต่างๆและรับมือกับสิ่งยั่วใจต่างๆที่เพิ่มเข้ามา ตัวละครแต่ละตัวพบกับสิ่งล่อใจที่อยู่ในตัวพวกเขาหรือพวกเธอลึกๆซึ่งเราได้ เห็นมาบ้างแล้วจากภาพยนตร์ตอนก่อนๆ”
“ความกลัวและสิ่งยั่วยวนใจคือประเด็นสำคัญที่ตัวละครต่างๆเผชิญหน้าและประเด็นหลักเหล่านั้นคือจุดที่ชี้ถึง น้ำหนักและเนื้อหาสาระของหนังสือ‘นาร์เนีย’” แอ็ปเท็ดกล่าวว่า “ภาพยนตร์เตือนเราว่าเราต้องรู้ทันตัวเองเพื่อจัดการกับสิ่งยั่วยวนใจและความกลัวซึ่งนั่นเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นผู้ใหญ่”
“สิ่งแรกที่เราต้องทำเมื่อเราตัดสินใจจะดัดแปลงหนังสือมาสู่ภาพยนตร์คือการถามว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร” ผู้อำนวยการสร้างมาร์ค จอห์นสัน กล่าวว่า “ใจความสำคัญคืออะไร? ผู้แต่งพยายามบอกอะไรแก่เราและเราจะทำให้ภาพยนตร์เต็มไปด้วยใจความสำคัญในแบบเดียวกันเหล่านั้นไว้ได้อย่าไงร? ‘ราชสีห์,แม่มดกับตู้พิศวง’ เต็มไปด้วยความศรัทธาเชื่อมั่น ‘เจ้าชายแคสเปี้ยน’เกี่ยว กับการสูญเสียและการนำศรัทธาเชื่อมั่นนั้นกลับคืนมาในภาพยนตร์ตอนใหม่นี้ เกี่ยวกับการเอาชนะต่อสิ่งยั่วใจเรามั่นใจว่าประเด็นหลักนั้นคือองค์ประกอบ สำคัญของภาพยนตร์โดยภายนอกของการบอกเล่าถึงเรื่องราวอันยิ่งใหญ่และน่า หลงใหล”



























ชื่ออังกฤษ | The Chronicles of Narnia : The Voyage of The Dawn Treader |
ชื่อไทย | อภินิหารตํานานแห่งนาร์เนีย 3 : ผจญภัยโพ้นทะเล |
ประเภทหนัง | Action/Fantasy |
ผู้กำกับ | Michael Apted |
ผู้แต่ง | - |
วันที่เข้าฉาย | 09 December 2010 |
ความยาวหนัง | - |
นักแสดง | Ben Barnes, Eddie Izzard (ให้เสียงพากย์), Skandar Keynes, Georgie Henley, Will Poulter, Liam Neeson (ให้เสียงพากย์) |
เข้าฉายวันที่ 9 ธันวาคม 2553