The Stool Pigeon

ตัวอย่าง The Stool Pigeon

ดี-เลว-เดือด กระแทกเฉือนคม (มงคลภาพยนตร์)

กำหนดฉาย : 17 มีนาคม 2554 (เฉพาะลิโดสยามสแควร์)
แนว : ชีวิต/ดราม่า, แอ็คชั่น
ยาว : 113 นาที
นำแสดง : จางเจียฮุย, เซียะถิงฟง, ก้วยหลุนเหม่ย
กำกับ : ดังเต้ แลม

          จง คบมันเหมือนเพื่อน แต่อย่าเป็นเพื่อนกับมัน! ติดโผภาพยนตร์แห่งปีจากสมาคมนักวิจารณ์ฮ่องกง เข้าชิง 8 รางวัล ฮ่องกง ฟิล์ม อวอร์ดส์ ปี 2011
เรื่องย่อ The Stool Pigeon
          หลี่ตง (จางเจียฮุย) สารวัตรใหญ่จากกองปราบฯ เป็นตำรวจฝีมือดีที่ถ้าได้ลองสะสางคดีไหนแล้ว ก็ต้องสำเร็จทุกคดีไป ปัจจัยที่มีส่วนสำคัญอย่างมากในการทำงานสืบสวนของหลี่ตง คือการใช้นกต่อ (หรือสายตำรวจ) แฝงตัวเข้าไปในแก๊งอาชญากรรม แล้วคาบข่าวออกมาบอกเจ้าหน้าที่

          แต่เมื่อไม่นานมานี้เอง ชีวิตที่ดูเหมือนจะราบรื่นของหลี่ตงก็พังครืนลงพร้อมๆ กัน เนื่องจากความกร่างและสะเพร่าของเขาเอง ภรรยาของเขาพยายามฆ่าตัวตาย หลังจากพบว่าเขาแอบนอกใจ ส่วนสายข่าวคนสนิท (เลี่ยวฉีจือ) ก็โดนแก๊งค้ายาทำร้ายร่างกายจนเสียสติ กลายเป็นคนบ้าที่ใช้ชีวิตอยู่ใต้ทางด่วน

          หลี่ตง ตั้งใจว่าจะเบนเข็มชีวิตใหม่ แต่ด้วยภาระหน้าที่ทางราชการ เขาไม่วายจะต้องกลับไปหาสายข่าวอีก หนนี้เมื่อผู้บังคับบัญชาสั่งการมาว่า ไถ่ปิง (หลิวอี้) อาชญากรตัวเอ้จากไต้หวัน กำลังวางแผนปล้นในฮ่องกง หลี่ตงจึงต้องหาใครสักคนที่จะเข้าไปสอดแนมได้ และเขาก็ได้เลือก เสี่ยวกุ่ย (เซียะถิงฟง) โจรนักซิ่งที่กำลังจะออกจากคุก โดยยื่นข้อเสนอให้เสี่ยวกุ่ยว่า หากงานสำเร็จ เขาจะช่วยเป็นธุระจัดการไถ่ตัวน้องสาวของอีกฝ่ายออกจากซ่องโสเภณี

          เสี่ยวกุ่ยจำใจเข้าไปสืบข่าวโดยปลอมตัวเข้าไปในแก๊งของไถ่ปิง และที่นั่นเขาได้พบกับ ตี้ (ก้วยหลุนเหม่ย) แฟนสาวของไถ่ปิงที่เขาเคยได้รู้จักกับเธอโดยบังเอิญเมื่อหลายปีก่อน

          อย่าง ไรก็ตาม ภารกิจหนนี้ของสารวัตรหลี่ตงและสายข่าวของเขา ก็ไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่น เพราะทุกอย่างที่วางแผนไว้ กลับปรากฏผลลัพธ์ที่กลับตาลปัตร

          The Stool Pigeon เป็นผลงานชิ้นล่าสุดของ ดังเต้ แลม ผู้กำกับหนังแอ๊คชั่นแถวหน้า (และได้ชื่อว่าเป็น คนทำหนังที่ฮอตที่สุดในเวลานี้ของเกาะฮ่องกง) โดยยังคงเนื้อหาเกี่ยวพันกับความสัมพันธ์ของลูกผู้ชาย การเสียสละ และการจะต้องตัดใจเลือกระหว่างความถูกต้องและข้อผูกมัดทางใจ
          จุดชนวนความระห่ำ 17 มีนาคม 2554 เฉพาะที่โรงภาพยนตร์เครือเอเพ็กซ์ สยามสแควร์

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

In A Better World

แดนดิบ แดนสวรรค์ (M Pictures)

กำหนดฉาย : 24 มีนาคม 2554
แนว : ดราม่า
นำแสดง : Mikael Persbrandt (Dag och natt), Trine Dyrholm (Ensoap) และ Ulrich Thomsen (Arven,Festen)
กำกับ : Susanne Bier (Thing We Lost in the Fire)


จุดเด่น In A Better World

          - ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมจากเวทีลูกโลกทองคำ และล่าสุดกับการเข้าชิงรางวัลเดียวกันจากเวทีออสการ์

เรื่องย่อ In A Better World

          แอนตั้น เป็น นายแพทย์ที่จำเป็นต้องเดินทางไปๆมาๆระหว่างบ้านที่เมืองเงียบแสนสงบใน เดนมาร์ก กับที่ทำงานซึ่งเป็นค่ายผู้อพยพชาวอัฟริกัน สองโลกที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงนี่เองที่เขาและครอบครัวต้องเผชิญหน้ากับ ความขัดแย้งที่นำพวกเขาไปสู่ทางเลือกแสนลำบากใจ ระหว่างความเคียดแค้นกับการให้อภัย แอนตั้น กับ แมเรียน ภรรยาของเขามีลูกชายวัยน่ารักสองคนกำลังอยู่ในช่วงแยกกันอยู่และมีแนวโน้มว่าจะหย่าขาดจากกันในไม่ช้า เอเลียส ลูกชายคนโตวัยสิบขวบถูกรังแกที่โรงเรียนอยู่บ่อย ๆ จนกระทั่ง คริสเตียน ต้องออกโรงปกป้อง เขาเป็นนักเรียนใหม่ที่เพิ่งย้ายจากลอนดอนมาพร้อมกับ คลอส พ่อของเขา แม่บังเกิดเกล้าของคริสเตียนเพิ่งเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งและเขายังทำใจให้ ยอมรับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ไม่ได้ เอเลียส กับ คริสเตียน ผูกสัมพันธ์กันได้ถูกคอเข้าขากันเป็นอย่างดี แต่เมื่อคริสเตียนลากเอเลียสเข้าไปร่วมแผนการล้างแค้นสุดอันตรายที่น่าจะก่อ ให้เกิดโศกนาฏกรรมตามมาได้นั้น มันก็เป็นการทดสอบมิตรภาพของทั้งคู่ พร้อม ๆ กับอีกหลายชีวิตที่จะตกอยู่ในอันตราย

          ท้ายที่สุดแล้วก็ร้อนถึงผู้ปกครองของทั้งคู่ที่จะต้องเข้ามาช่วยพวกเขาให้ เข้าถึงความซับซ้อนของอารมณ์มทนุษย์, ความเจ็บปวดรวดร้าว, และความเข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

Shine a Light

ตัวอย่าง Shine a Light

Shine a Light เก๋าร็อคเขย่าโลก (มงคลเมเจอร์)
กำหนดฉาย : 24 มีนาคม 2554 (EXCLUSIVE AT HOUSE RCA)
ยาว: 122 นาที
แนว : สารคดี
กำกับ : มาร์ติน สกอร์เซซี

          ตำนานร็อค แอนด์ โรล ปะทะ ผู้กำกับออสการ์ ประวัติศาสตร์ของหนังและเพลงที่คุณต้องมาร่วมเป็นสักขีพยาน

เรื่องย่อ Shine a Light

          ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ครั้ง เมื่อสุดยอดผู้กำกับอย่าง มาร์ติน สกอร์เซซี (Taxi Driver, The Departed) มาทำหนังสารคดีบันทึกการแสดงคอนเสิร์ตของสุดยอดวงดนตรีร็อคระดับโลกที่เป็น ตำนานมากว่า 50 ปีอย่างคณะหินกลิ้ง เดอะ โรลลิ่ง สโตนส์

          Shine a Light (หยิบยืมชื่อมาจากชื่อเพลงในอัลบั้มปี 1972 ของคณะนี้) เป็นการบันทึกโชว์ครั้งสำคัญของเดอะ โรลลิ่ง สโตนส์ ในปี 2006 ที่โรงละครบีคอน เธียเตอร์ ณ มหานครนิวยอร์ก การแสดงครั้งนี้ของพวกเขา เป็นคอนเสิร์ตหารายได้ให้กับมูลนิธิของอดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน โดยมาร์ติน สกอร์เซซี ไฟว้วานผู้กำกับภาพชื่อดังถึง 7 คน มาบันทึกภาพทุก ๆ อิริยาบท ตั้งแต่การซ้อม ยันการขึ้นเล่นจริง

          ขึ้นชื่อว่าเป็นหนังของมาร์ติน สกอร์เซซี ผู้ชมก็คาดหมายล่วงหน้าได้เลยว่า จะต้องมาพร้อมกับเทคนิคการเล่าเรื่องที่สวิงสวาย หวือหวา และกระตุ้นเร้าผู้ชมอยู่ตลอดเวลาด้วยความตระการตา Shine a Light จึงไม่ได้เป็นเพียงบันทึกการแสดงสดเหมือนกับดีวีดีคอนเสิร์ตทั่ว ๆ ไป แต่เป็นการเล่าเรื่องเคล้าดนตรีร็อคครั้งสำคัญของศิลปินระดับตำนานของทั้ง สายหนังและสายเพลง

เกร็ดภาพยนตร์

          - เพลง Shine a Light เป็นเพลงในปี 1972 ของคณะเดอะ โรลลิ่ง สโตนส์ รวมอยู่ในอัลบั้ม Exile on Main St.

          - บนเวทีคอนเสิร์ต Shine a Light ผู้ชมได้รับชมการแสดงเพลงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันของเดอะโรลลิ่ง สโตนส์ จำนวน 20 เพลง ตั้งแต่เพลงฮิตในยุคแรกๆ อย่าง I Can't Get No (Satisfaction) และเพลงเก่าที่นำมาร้องดูเอ็ตกับนักร้องรุ่นหลาน Live with Me กับ คริสติน่า อากิเรล่า

          - มิก แจ็คเกอร์ นักร้องนำของเดอะ โรลลิ่ง สโตนส์ และคณะ ไม่ยอมบอกมาร์ติน สกอร์เซซี ว่าพวกเขาจะเล่นเพลงอะไรบ้างบนเวที นั่นจึงทำให้มาร์ติน สกอร์เซซี แทบจะไม่สามารถวางแผนการทำงานล่วงหน้าเลย ทุกอย่างที่เห็นในหนังจึงเป็นการบันทึกภาพแบบสดๆ และอาศัยทักษะของผู้กำกับภาพล้วน ๆ

          - มาร์ติน สกอร์เซซี เรียกใช้บริการของผู้กำกับภาพเจ้าของรางวัลออสการ์อย่าง โรเบิร์ต ริชาร์ดสัน (เคยถ่ายหนังดังๆ อย่าง JFK, Kill Bill) ให้มาเป็นผู้กำกับภาพหลักในคอนเสิร์ตครั้งนี้ โดยตากล้องที่เหลือในทีม ก็ล้วนแล้วแต่เป็นช่างภาพมือฉมังด้วยกันทั้งสิ้น ได้แก่ จอห์น โทล (The Last Samurai) แอนดรูว เลสนี่ย์ (The Lord of the Rings) สจ๊วต ดรายเบิร์ก (The Piano) โรเบิร์ต เอลส์วิต (There Will be Blood) เอมมานูแอล ลูเบซกี (Sleepy Hollow) และ เอลเลน คูราส (Eternal Sunshine of a Spotless Mind) เรียกได้ว่า นอกจากอรรถรสทางเสียงที่ผู้ชมจะได้รับสุทรียะแบบเต็มร้อยแล้ว อรรถรสทางด้านภาพก็จัดจ้านไม่แพ้กัน

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
 

The Resident

ตัวอย่าง The Resident

แอบจ้อง รอเชือด (มงคลเมเจอร์)

กำหนดฉาย : 24 มีนาคม 2554
แนว : ระทึกขวัญ
นำแสดง : ฮิลลารี สแวงค์ (Million Dollar Baby, P.S. I Love You), เจฟฟรี่ย์ ดีน มอร์แกน (The Watchmen, The Losers), ลี เพส (ซีรี่ย์ Pushing Dasies, The Fall), คริสโตเฟอร์ ลี (The Lord of the Rings, Star Wars: Episode I - II)
บทภาพยนตร์ : โรเบิร์ต ออร์ (Underworld: Rise of the Lycans, Savior)
กำกับ : แอนติ โจคิเนน
อำนวยการสร้าง : แครี่ โบรคาว (Closer, The Merchant of Venice)

          ภาพยนตร์ทริลเลอร์ที่จะทำให้ผู้หญิงทุกคนต้องทบทวนอีกครั้ง เมื่อคิดว่าตัวเองเจอผู้ชายในฝัน

เรื่องย่อ The Resident
          ทุกปีจะมีผู้หญิง 3 ล้านคนทั่วทั้งสหรัฐ ย้ายเข้าไปอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ตัวคนเดียว พวกเธอไม่รู้จักเจ้าของห้องมาก่อน พวกเธอไม่รู้ว่ามีใครเคยอยู่ที่นี่ พวกเธอไม่สนใจแม้กระทั่งจะเปลี่ยนล็อคใหม่... นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงคนหนึ่ง

          หลังจากแยกทางกับสามี จูเลียต เดอร์เมอร์ (ฮิลลารี สแวงค์) แพทย์ หญิงก็ย้ายไปอยู่ที่บรู๊คลิน เธอพยายามเริ่มต้นชีวิตใหม่ในอพาร์ทเม้นท์ที่ดูสมบูรณ์แบบ แต่แล้วหลังจากย้ายเข้ามาก็มีเหตุการณ์บางอย่าง ที่ทำให้เธอแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้อยู่คนเดียว และความกลัวของจูเลียต ก็กลายเป็นจริง เมื่อเธอได้ทำความรู้จักกับ แม็กซ์ (เจฟฟรี่ย์ ดีน มอร์แกน) เจ้า ของห้องที่ดูนิสัยดีและมีสเน่ห์ และเริ่มพัฒนาความสัมพันธ์กับเขา... นี่คือวังวนของความรักที่สุดอันตราย เมื่อจุดประสงค์ที่แท้จริงของแม็กซ์ มีมากเกินความสัมพันธ์ของคนรักทั่วไป
เกร็ดภาพยนตร์

          - The Resident เป็นผลงานเรื่องล่าสุดของ ฮิลลารี สแวงค์ นักแสดงที่เคยได้รับรางวัลออสการ์มาสองครั้งจาก Boy Don't Cry และ Million Dollar Baby โดยครั้งนี้เธอได้รับบทเป็นผู้หญิงที่ต้องเผชิญหน้ากับเจ้าของห้องที่ไม่ เป็นอย่างที่เห็นภายนอก โดย ฮิลลารี พูดถึงหนังว่า "ฉันคิดว่า The Resident ให้ความรู้สึกเหมือนกับภาพยนตร์เรื่อง Fatal Attraction ในเวอร์ชั่นหญิงสลับชาย บวกกับพฤติกรรมของความอยากรู้อยากเห็นในรูปแบบ Disturbia ฉันมั่นใจว่าผู้หญิงคนไหนก็ตามที่ได้ดูเรื่องนี้ก็จะไม่กล้าอยู่คนเดียว"

          - นี่ ถือเป็นบทบาทที่ท้าทายของ ฮิลลารี สแวงค์ เมื่อเธอต้องเปลืองตัวที่สุดในชีวิต เมื่อต้องเข้าฉากรักกับนักแสดงหนุ่มอย่าง เจฟฟรี่ย์ ดีน มอร์แกน จาก The Watchmen และ The Loser และเคยร่วมแสดงกับเธอใน P.S. I Love You โดยเขารับบทเป็นเจ้าของห้องที่มีจุดประสงค์บางอย่างกับผู้หญิงที่เช่าห้อง เจฟฟรี่ย์พูดถึงการแสดงในเรื่องนี้ว่า "ภาย นอกแล้ว แม็กซ์ เป็นผู้ชายที่มีสเสน่ห์และมีความเป็นกันเอง แต่มีบางอย่างที่ทำให้เขาไม่เหมือนผู้ชายทั่วไป ผมคิดว่าการที่คุณยิ่งเฝ้าติดตามคนอื่นมากเท่าไร มันก็ยิ่งปลุกสัญชาตญาณดิบในตัวคุณออกมามากเท่านั้น"

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

Mary and Max

ตัวอย่าง Mary and Max

Mary and Max (มงคลเมเจอร์)

กำหนดฉาย : 17 มีนาคม 2554
แนว : การ์ตูน
ยาว : 92 นาที
ให้เสียงพากย์โดย : ฟิลิปป์ ซีมัวร์ ฮอฟฟ์แมน, โทนี่ คอลเลตต์, เอริค บาน่า
กำกับ : อดัม เอเลียต

          เมื่อ "มิตรภาพ" คือแสงสว่างเดียวในชีวิตอันมืดมน นี่คือ "แอนิเมชั่นดินน้ำมัน" ที่ชนะหัวใจผู้ชมมาแล้วทั่วโลก

เรื่องย่อ Mary and Max
          เรื่อง ราวของ Mary and Max นั้น ให้อารมณ์หวานอมขมกลืนอยู่สักนิด แมรี่ เป็นเด็กหญิงจากเมลเบิร์นที่อยู่ในครอบครัวที่มีแม่ติดเหล้า ส่วนพ่อก็หมกมุ่นอยู่กับการสตั๊ฟฟ์สัตว์ แมรี่จึงกลายเป็นเด็กหญิงที่เหงา เปล่าเปลี่ยวที่สุดในโลก วันหนึ่งแมรี่เปิดสมุดหน้าเหลืองเพื่อสุ่มหาเพื่อนทางจดหมายในประเทศอเมริกา จนไปเจอเข้ากับ แม็กซ์ ชายร่างอ้วนวัย 40 ปีที่อาศัยอยู่ในนิวยอร์ก แม็กซ์เป็นคนที่มีปัญหาด้านบุคลิกภาพ เข้ากับใครไม่ได้ เมื่อเด็กหญิงขี้เหงากับชายเจ้าปัญหามาเป็นเพื่อนทางจดหมายกัน มิตรภาพอันงดงามก็ค่อยๆ งอกเงยอย่างค่อยเป็นค่อยไป

          ผู้กำกับ อดัม เอลเลียต ถนัดในการทำสต๊อป - โมชั่นดินน้ำมันแบบนี้ เมื่อปี 2003 เขาผลิตแอนิเมชั่นเรื่อง Harvie Krumpet จนโด่งดัง และคว้ารางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์แอนิเมชั่นขนาดสั้นยอดเยี่ยมมาครอง และกลายมาเป็นคนทำแอนิเมชั่นดาวรุ่งที่ฮอตและน่าจับตามองมากที่สุดมาตั้งแต่ ตอนนั้น

เกร็ดภาพยนตร์

          - Mary and Max คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเทศกาล Annecy International Animated Film Festival ซึ่งถือเป็นเทศกาลภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ ยังคว้ารางวัลเดียวกัน จากอีกหลายเทศกาลอาทิ เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองเบอร์ลิน (สายหนังเด็ก), เทศกาลหนังแอนิเมชั่นที่อ็อตตาวา ประเทศแคนาดา

          - ผู้ กำกับ อดัม เอลเลียต เคยได้รางวัลออสการ์จากสาขาภาพยนตร์แอนิเมชั่นขนาดสั้นยอดเยี่ยมจากเรื่อง Harvie Krumpet  เมื่อมาทำ Mary and Max เขาสามารถคว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม จากสมาคมผู้กำกับ (ออสเตรเลีย) มาครองได้สำเร็จ

          - อดัม เอลเลียตใช้เวลาถ่ายทำทำ Mary and Max เป็นเวลา 57 สัปดาห์ ไม่มีวันหยุด แม้กระทั่งวันปีใหม่ โดยทีมงานทั้งหมด 120 คน

          - อดัม เอลเลียต ต้องสร้างฉากขึ้นมา 133 ฉาก ใช้หุ่นตัวละคร 212 ตัว และอุปกรณ์ประกอบฉากขนาดเล็กอีก 475 ชิ้น เขาเล่าว่า แค่เครื่องพิมพ์ดีดที่เห็นในหนังนั้น ต้องใช้เวลาออกแบบและสร้างเกือบ 9 สัปดาห์กว่าจะแล้วเสร็จ

          - เค้า โครงเรื่อง Mary and Max มาจากเรื่องจริง ผู้กำกับ อดัม เอลเลียต เผยว่า เขานำมาจากเรื่องราวระหว่างเขาและเพื่อนทางจดหมายคนหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ที่ นิวยอร์ก ทั้งคู่เขียนจดหมายหากันมากว่า 20 ปีแล้ว

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

Last Night

คืนสุดท้าย ขอปันใจให้รักเธอ (United Home Entertainment)

กำหนดฉาย : 17 มีนาคม 2554
นำแสดง : เคียรา ไนท์ลีย์, แซม เวิร์ทธิงตัน, เอวา เมนเดส, กิลโลม คาเนท์, กริฟฟิน ดันน์
กำกับ/ บทภาพยนตร์ : แมสซี ทาด์เยดิน

          Last Night คือเรื่องราวอันทรงพลังเกี่ยวกับความเชื่อมั่น, ตัณหา และการหลอกลวง เป็นการนำผู้ชมก้าวเข้าไปยังพื้นที่สีเทาของความซื่อสัตย์ ซึ่งการตัดสินใจผิดพลาดเพียงครั้งเดียว อาจทำให้เกิดผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึง และจะทำให้เราต้องเสียใจไปตลอดชีวิต ดั่งตัวอย่างเช่น ไมเคิล (แซม เวิร์ทธิงตัน) และ โจแอนนา รีด (เคียรา ไนท์ลีย์) คู่ สามีภรรยาที่ดูเหมือนมีชีวิตที่เพียบพร้อมลงตัวทุกอย่าง ทั้งยังหนุ่มยังสาว, หน้าตาดีมีเสน่ห์ และประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ทั้งสองอาศัยอยู่ที่อพาร์ทเมนท์ทันสมัยในแมนฮัตตัน แต่แล้วคืนหนึ่งในงานเลี้ยงสังสรรค์ที่บริษัทของไมเคิลจัดขึ้น โจแอนนาสังเกตเห็นความสนิทสนมผิดปกติระหว่างสามีของเธอ และเพื่อนร่วมงานสาวคนใหม่ที่ชื่อลอรา (เอวา เมนเดส) แม้ ว่าโจแอนนาเองยังไม่มั่นใจเต็มที่ในสิ่งที่เธอเห็นหรือรู้สึก ทว่าเหตุการณ์นี้ได้สร้างความเคลือบแคลง ซึ่งจะสั่นคลอนความรักและความไว้ใจที่เธอมีต่อไมเคิลอย่างมาก

          Last Night คือผลงานกำกับภาพยนตร์ครั้งแรกของผู้กำกับหญิง แมสซี ทาด์เยดิน ซึ่งจะนำผู้ชมไปสำรวจความรู้สึกก้นบึ้งจิตใจของบรรดาตัวละครในเรื่อง รวมถึงเจาะลึกถึงแรงกระตุ้นของแต่ละคน ที่ถูกผลักดันโดยอำนาจของกิเลสตัณหา หรือความรักคงมั่น อันเกิดเป็นคำถามตามมาว่า ความระแวงสงสัยจะเป็นบ่อเกิดของการนอกใจได้หรือไม่?
          ผู้กำกับ ทาด์เยดินใช้ความสามารถของเธอ ดึงทักษะการแสดงอันสุดยอดของเหล่านักแสดงออกมา โดยเฉพาะตัวเคียรา ไนท์ลีย์ ที่บทบาทในผลงานชิ้นนี้ ถูกจัดว่าเป็นหนึ่งในการแสดงที่ดีเยี่ยมที่สุดของเธอ ไนท์ลีย์ทำให้โจแอนนาเป็นหญิงสาวที่ดูแน่วแน่มั่นคง และน่าสงสาร แต่ก็ถูกทำให้ไขว้เขวไปโดยความปรารถนาอันเย้ายวนใจ เมื่อเธอบังเอิญได้พบคนรักเก่า อเล็กซ์ (กิลโลม คาเนท์)

          ด้วยแนวคิดที่ยึดเอาความถูกต้องทางศีลธรรมเป็นเกณฑ์ ทาด์เยดินมอบความยุติธรรม และความเห็นอกเห็นใจแก่ตัวละครทุกตัวของเธอ สิ่งนี้ทำให้ Last Night กลายเป็นภาพยนตร์ที่พูดถึงความรักยุคใหม่ และการแต่งงานได้ดีที่สุดอีกเรื่องหนึ่ง

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก

Rango

ตัวอย่าง Rango

แรงโก้ ฮีโร่ทะเลทราย (UIP)

กำหนดฉาย : 10 มีนาคม 2554

ทีมพากย์ Rango

          จอห์นนี่ เด็ปป์ พากย์เสียง แรงโก้ ให้เสียงพากย์ไทยโดย บอย - ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ 

          อิสลา ฟิชเชอร์ พากย์เสียง ถั่วน้อย ให้เสียงพากย์ไทยโดย โบวี่ - อัฐมา ชีวนิจพันธ์

          บิลล์  ไนฮีย์ พากย์เสียง เจ้ค หางกระดิ่ง ให้เสียงพากย์ไทยโดย ตั๊ก - นภัสกร มิตรเอม 

          อาบิเกล เบรสลิน พากย์เสียง พริสซิลล่า

          อัลเฟรด โมลินา พากย์เสียง โร้ดคิลล์

          สตีเฟน รู้ท พากย์เสียง หมอ, เมอร์ริแม็ค 

          แฮ็ทตี้ ดีน สแตนตัน พากย์เสียง บัลธาซาร์

          เรย์ วินสโตน พากย์เสียง แบ้ด บิลล์ 

          ทิโมธี โอลีเฟนท์ พากย์เสียง จิตวิญญาณแห่งตะวันตก

          เอียน เอเบอร์ครอมบี้ พากย์เสียง แอมโบรส

          กิล เบอร์มิงแฮม พากย์เสียง นกบาดเจ็บ

          คลอเดีย แบล็ค พากย์เสียง แองเจลิค

ทีมผู้สร้าง Rango

          กำกับ / เรื่องราว / อำนวยการสร้าง : กอร์ เวอร์บินสกี้

          มือเขียนบท : จอห์น โลแกน

          เรื่องราว : เจมส์ วอร์ด เบอร์กิท

          ผู้อำนวยการสร้าง : แกรห์ม คิง

          ผู้อำนวยการสร้าง : จอห์น บี. คาร์ลส์


เว็บไซต์ทางการภาพยนตร์


          "คุณอยากเชื่อในอะไรซักอย่างงั้นรึ?"

          - แรงโก้ - 

          ดินแดนตะวันตกของอเมริกาเคยเจอกับวีรบุรุษนอกคอกมาทุกรูปแบบแล้ว แต่แรงโก้เป็นสายพันธุ์ใหม่แหกคอก เพราะเขาเป็นกิ้งก่าตัวจิ๋วหัวใจโต ที่ออกผจญภัยเพื่อช่วยเหลือชาวเมือง ในแบบที่ไม่มีใครเหมือน เพราะเขาต้องเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นวีรบุรุษในตำนาน ที่เขาเคยแต่เสแสร้งแกล้งทำเท่านั้น

          Rango กำกับโดย กอร์ เวอร์บินสกี้ ผู้กำกับแฟรนไชส์ฟอร์มยักษ์ Pirates of the Caribbean และพากย์เสียงโดยนักแสดงผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงออสการ์ จอห์นนี่ เด็ปป์ในบทกิ้งก่าหลากสี ตัวเอกของเรื่อง ภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มต้นจากเวสเทิร์นที่เราคุ้นตา ก่อนจะจับมันเขย่า โยกซ้ายขวาอย่างเมามันส์ เพื่อให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นการผจญภัยสำหรับครอบครัวที่น่าตื่นตาตื่น ใจ ที่เจือไปด้วยอารมณ์ขันและตัวละครอบอุ่นหัวใจ พร้อม ๆ กับแอ็กชันสุดระทึก ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเชิญชวนผู้ชมให้ร่วมเดินทางบนเส้นทางคลุกฝุ่นไปสู่โลก สร้างสรรค์ที่แปลกต่าง เมืองแห้งแล้งสุดขอบทะเลทรายที่เป็นที่อยู่ของบรรดาสิ่งมีชีวิตต่ำต้อย และถูกคุกคามโดยสัตว์ร้าย ทั้งหมดนี้ถูกเนรมิตให้โลดแล่นมีชีวิตได้ด้วยฝีมือของทีมเล่าเรื่องที่ประสบ ความสำเร็จและทีมนักพากย์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของวงการ

          เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ แรงโก้ หลังจากที่เคยใช้ชีวิตเป็นแค่สัตว์เลี้ยงประจำบ้าน ที่เฝ้ามองโลกเคลื่อนผ่านเขาไปจากข้างในตู้กระจก พบว่าตัวเองหลงทางอยู่ในทะเลทรายโมเฮฟ และได้ซัดเซพเนจรไปจนถึงดินแดนสุดเขตแดนตะวันตก เมืองดิน ที่แร้นแค้นไม่แพ้ชื่อ แรงโก้หวังว่าเขาจะกลมกลืนกับที่นี่ได้ แต่ไม่นานนัก เขากลับเด่นเกินใคร แม้กระทั่งในหมู่ชาวเมือง ที่ประกอบไปด้วยผู้ว่าเต่า วายร้ายงูหางกระดิ่ง ฝูงกระรอกหมาโจรปล้นธนาคาร กิ้งก่ากีลานักแม่นปืนและกิ้งก่าสาวตัวแรกที่แรงโก้ได้ประสบพบเจอ เมื่อแรงโก้จับพลัดจับผลูมาได้เป็นนายอำเภอตัวใหม่ของเมืองที่กันดารแห่งนี้ และเป็นความหวังสุดท้ายที่จะหาน้ำอันล้ำค่าให้พบ เขาก็รู้ว่าเขาแกว่งเท้าหาเสี้ยนเข้าให้แล้ว ตำนานกล่าวเอาไว้ว่า คนดี ๆ ไม่มีที่อยู่ในนครดิน แต่แรงโก้ก็พร้อมที่จะท้าทายโชคชะตาเมื่อเขาเดินหน้าไปตามหนทางของตัวเอง เพื่อกลายเป็นสิ่งที่แม้กระทั่งกิ้งก่ายังปลอมแปลงไม่ได้ นั่นคือวีรบุรุษตัวจริง
          Rango เป็นภาพยนตร์แอนนิเมชั่นเรื่องแรกจากเวอร์บินสกี้ ผู้เปลี่ยนแฟรนไชส์ Pirates of the Caribbean ให้กลายเป็นตำนานร่วมสมัยสุดระทึก ที่เป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมทั่วโลก บัดนี้ เขาก็ได้นำความสนุกสนานแบบเดียวกันนั้นมาสู่ตำนานอีกแบบหนึ่ง การผจญภัยน่าอัศจรรย์ใจของกิ้งก่าน่าขบขันตัวหนึ่งในโลกตะวันตกที่ทุรกันดาร และสมจริงจนคุณรู้สึกเหมือนทรายเข้าปาก นอกจากนี้ Rango ยังเป็นผลงานแอนนิเมชั่นเรื่องแรกของบรรดาทีมงานที่บริษัทสเปเชียล เอฟเฟ็กต์เจ้าของรางวัลมากมายอย่างอินดัสเทรียล ไลท์ แอนด์ เมจิค (ไอแอลเอ็ม) อีกด้วย ประสบการณ์ที่พวกเขาสั่งสมมาจากภาพยนตร์แอ็กชันผจญภัยที่เป็นที่ชื่นชอบที่ สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ทำให้เขาสามารถหล่อหลอมให้เกิดลุคและความรู้สึก ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวขึ้นมาได้

          "Rango เป็นเรื่องราวของกิ้งก่าที่กำลังค้นหาตัวเองและตำนานที่บอกเล่าว่าเขากลายเป็นตำนานได้อย่างไรครับ" เวอร์บินสกี้เล่า "มัน เป็นเรื่องราวจัดจ้านที่มีทั้งอารมณ์ขัน ความรัก อารมณ์และเซอร์ไพรส์เป็นกระบุง แรงโก้เป็นตัวละครที่ยิ่งใหญ่ ที่ผสมกันระหว่างฮันเตอร์ เอส. ธอมป์สัน และดอน น็อทส์ และจอห์นนี่ เด็ปป์ก็ก้าวเข้ามาพากย์เสียงเขา และสร้างโฉมหน้ากล้าบ้าบิ่นให้กับเขาด้วยการพูดรัวเร็วครับ"

          เวอร์บินสกี้กล่าวต่อว่า "การ สร้างหนังเรื่องนี้เป็นเหมือนการจัดตั้งคณะละครด้วยกลุ่มนักแสดง ศิลปินและอนิเมเตอร์ที่ไม่ธรรมดา ทุกคนมารวมตัวกันและก่อให้เกิดการต่อยอดความคิดของกันและกัน เพื่อเนรมิตชีวิตให้กับตัวละครกลุ่มนี้ ด้วยความช่วยเหลือจากไอแอลเอ็ม และการกำหนดโทนแบบหนังสปาเก็ตตี้ เวสเทิร์นคลาสสิก เราก็เลยสามารถสร้างให้เกิดภูมิทัศน์ทางภาพยนตร์ที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง ได้ มันยกย่องธีมของหนังเวสเทิร์นเยี่ยมๆ แต่ก็สนุกกับการพลิกมันชนิดจากหน้ามือเป็นหลังมือด้วยครับ"
          พาราเมาท์ พิคเจอร์สและนิคเคลโลเดียน มูฟวีส์ ภูมิใจเสนอ ผลงานสร้างโดยอะ บลายด์ วิงค์/จีเค ฟิล์ม โปรดักชัน และกอร์ เวอร์บินสกี้ ฟิล์ม ภาพยนตร์แอนนิเมชั่นโดยอินดัสเทรียล ไลท์ แอนด์ เมจิค ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดยกอร์ เวอร์บินสกี้และเขียนบทโดยจอห์น โลแกน จากเรื่องราวโดยจอห์น โลแกน, กอร์ เวอร์บินสกี้และเจมส์ วอร์ด เบอร์กิท ผู้อำนวยการสร้างได้แก่กอร์ เวอร์บินสกี้, เกรแฮม คิงและจอห์น บี. คาร์ลส์ ผู้ควบคุมงานสร้างคือทิม เฮดดิงตัน มือลำดับภาพคือเคร็ก วู้ด ดนตรีประกอบภาพยนตร์โดยฮันส์ ซิมเมอร์ เจ้าของรางวัลอคาเดมี อวอร์ด ทีมนักพากย์ได้แก่จอห์นนี่ เด็ปป์, อิสลา ฟิชเชอร์, อาบิเกล เบรสลิน, อัลเฟรด โมลินา, บิลล์  ไนฮีย์, แฮร์รี ดีน สแตนตัน, เรย์ วินสโตนและทิโมธี โอลีเฟนท์ในบทจิตวิญญาณแห่งดินแดนตะวันตก

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก