วันศุกร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2554

เส้าหลิน 2 ใหญ่

เส้าหลิน 2 ใหญ่



เส้าหลิน 2 ใหญ่

เส้าหลิน 2 ใหญ่


ดูอื่นๆจากวีดิทัศน์แนะนำความคิดเห็นแบ่งปันส่งรายการโปรดTwitterFacebook


ตัวอย่างหนัง เส้าหลิน 2 ใหญ่




Shaolin (มงคลภาพยนตร์)

กำหนดฉาย : 27 มกราคม 2554
แนว : แอ็คชั่น, ศิลปะการต่อสู้
นำแสดง : หลิวเต๋อหัว (Detective Dee, Infernal Affairs I-III), เซี๊ยะถิงฟง (The Storm Warriors, Dragon Tiger Gate),ฟ้านปิงปิง (Bodyguards and Assassins, Shinjuku Incident), เฉินหลง (The Karate Kid, The Forbidden Kingdom)
ภาพยนตร์ : อลัน หยวน (New Police Story, Rob-B-Hood)
กำกับ : เบนนี่ ชาน
อำนวยการสร้าง : เฉินหลง (The Karate Kid, The Forbidden Kingdom)


เรื่องย่อ เส้าหลิน 2 ใหญ่ 

          ผลงานที่ได้แรงบันดาลใจจาก "เสี้ยวลิ้มยี่" หนังกังฟูคลาสสิกที่ทำให้ เจ็ท ลี แจ้งเกิดในฐานะแอ็คชั่นสตาร์อย่างเต็มตัว สู่หนังแอ็คชั่นเรื่องยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี Shaolin เป็นการรวมตัวซุปเปอร์สตาร์ทั่วฟ้าเมืองจีน ไม่ว่าจะเป็น เฉินหลง, หลิวเต๋อหัว, เซี๊ยะถิงฟง, ฟ้านปิงปิง, หยู่เส้าชุน และ นักมาร์เชียลอาร์ต อู๋จิง

          ประเทศจีนตกอยู่ในภาวะวิกฤต เมื่อแม่ทัพจีนต่างช่วงชิงความเป็นใหญ่ด้วยการยึดครองเมืองเพื่อขยายขอบเขต อำนาจให้มากที่สุด ซึ่งรวมถึง โฮ่วเจีย (หลิวเต๋อหัว) แม่ทัพที่ได้รับชัยชนะในสนามรบมานับไม่ถ้วน และความทรนงทำให้เขาไปท้าครูมวยวัดเส้าหลินและสามารถเอาชนะได้อย่างไม่ยาก เย็น

          แต่แล้วโชคชะตาของโฮ่วเจีย ก็ต้องพบกับจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ เมื่อถูก เชามัน (เซี๊ยะถิงฟง) รองแม่ทัพและเพื่อนสนิทหักหลัง ด้วยการลวงเขาเข้าไปหากับดักจนถูกลอบทำร้าย ทำให้ลูกของโฮ่วเจีย ต้องเสียชีวิตและเป็นเหตุให้ภรรยา (ฟ้านปิงปิง) ทิ้งเขาไป โฮ่วเจียก็กระเสือกกระสนหาที่พึ่งสุดท้ายซึ่งเป็นที่ที่ตัวเองเคยเหยียดหยาม เอาไว้อย่าง... วัดเส้าหลิน

          แต่ก่อนที่โฮ่วเจียจะยอมแพ้ต่อโชคชะตา เขาก็ได้รู้จักกับวิถีชีวิตของคนในวัดเส้าหลิน รวมถึงได้รู้จักกับพ่อครัว (เฉินหลง) ที่ ช่วยชี้ทางให้เห็นถึงความสุขที่แท้จริงในชีวิต แต่แล้วโฮ่วเจียก็ต้องพบกับเหตุการณ์เดียวกับที่ตัวเองเคยเป็นแม่ทัพ เมื่อเชามัน  ยกกำลังพลบุกยึดวัดเส้าหลิน  ก็เหลือเพียงแต่โฮ่วเจียและสมาชิกวัดเส้าหลินเท่านั้นที่จะหยุดยั้ง ทุกอย่าง ได้

          27 มกราคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์


เกร็ดภาพยนตร์ เส้าหลิน 2 ใหญ่ 


          • ทุ่มทุนเกือบ 1,000 ล้านบาทในการสร้าง ทำให้ Shaolin กลาย เป็นหนังแอ็คชั่นจากประเทศจีนที่ลงทุนสูงที่สุดแห่งปี 2010 โดยทีมงานยังได้ใช้เวลากว่า 4 เดือนในการสร้างวัดเส้าหลินขนาดเท่าของจริงขึ้นมาใหม่ โดยผู้กำกับ เบนนี่ ชาน ที่เคยมีผลงานแอ็คชั่นสุดมันส์มาแล้วอย่าง New Police Story ให้เหตุผลว่า "เพราะ ตอนนี้มีนักท่องเที่ยวมากเกินไป แถมยังมีฉากแอ็คชั่นเกิดขึ้นภายในวัดเส้าหลินมากมาย พวกเรากลัวว่าการถ่ายทำจะทำลายความขลังของสถานที่จริง เราจึงตัดสินใจจำลองสถานที่ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด"

          • Shaolin นำแสดงโดยสองนักแสดงแถวหน้าของวงการหนังเอเชียอย่าง หลิวเต๋อหัว และ เซี๊ยะถิงฟง โดยพระเอกที่รับบทโดย หลิวเต๋อหัว เผยว่าตัวเองเกือบที่จะบอกบัดบทนี้ไปแล้ว "ตอน แรกที่ผมได้อ่านบท ผมกลัวว่าฝีมือกังฟูของตัวเองจะไม่ได้ตามมาตรฐานของมวยวัดเส้าหลิน แต่เมื่ออ่านต่อไปผมก็รู้สึกประทับใจกับเส้นทางชีวิตของแม่ทัพ และก็ทำให้ผมอยากถ่ายทอดตัวเขาออกมาให้ดีที่สุด" ในขณะที่ เซี๊ยะถิงฟง ที่รับบทเป็นผู้ร้ายครั้งแรก เผยถึงบทบาทของเขาว่า "ผม สนุกกับบทนี้มากครับ เพราะถึงแม้ว่าเขาเป็นผู้ร้าย แต่คุณก็เข้าใจในเหตุผลของการกระทำ เขาเป็นคนที่รักชาติ แต่ความรักชาติและเป้าหมายก็ไปเบียดเบียนสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น"

          • Shaolin อำนวยการสร้างโดย เฉินหลง โดยนอกจากการเป็นผู้อำนวยการสร้างแล้ว เขายังรับบทสำคัญบทหนึ่งของหนังอีกด้วย เขาเล่าถึงการทำงานว่า "ผม อยากถ่ายทอดตำนานของเสี้ยวลิ้มยี่ให้ออกมาเที่ยงตรงมากที่สุด โดยนอกที่จะมีเรื่องราวที่เข้าถึงใจของทุกคนแล้ว ผมยังอยากที่จะถ่ายทอดกระบวนท่าหมัดแห่งวัดเส้าหลินให้ถูกต้องอีกด้วย โดยครั้งนี้เราก็ได้ผู้กำกับคิวบู๊อย่าง โครี่ หยวน (Red Cliff I-II, Transporter 3 และ So Close) มาทำงานให้ ซึ่งเขาก็ถือเป็นมือออกแบบคิวบู๊ดีที่สุดคนหนึ่งของวงการ"






Shaolin

Shaolin : เส้าหลิน 2 ใหญ่

Shaolin

Shaolin : เส้าหลิน 2 ใหญ่

Shaolin

Shaolin : เส้าหลิน 2 ใหญ่

Shaolin

Shaolin : เส้าหลิน 2 ใหญ่

Shaolin

Shaolin : เส้าหลิน 2 ใหญ่

Shaolin

Shaolin : เส้าหลิน 2 ใหญ่









ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

The Fighter

The Fighter


The Fighter

The Fighter

The Fighter

The Fighter



ตัวอย่าง The Fighter




เดอะ ไฟท์เตอร์ 2 แกร่ง หัวใจเกินร้อย (M Pictures)

กำหนดฉาย
: 27 มกราคม 2554 
แนว : ดราม่า
นำแสดง : Mark Wahlberg (The Departed), Christian Bale (The Dark Knight), Amy Adams (Dubt), Melissa Leo (Frozen River)
กำกับ : David O. Russell (Three Kings)

จุดเด่น The Fighter


          -  ภาพยนตร์ดราม่าที่ได้รับรางวัลนักแสดงสมทบยอดเยี่ยม (คริสเตียน เบล) จากเวที NBR (National Board of Review, USA) เข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (คริสเตียน เบล) และนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (เอมี อดัมส์) จาก Satellite Awards นอกจากนี้ยังเข้าชิงรางวัลจากสมาคมนักแสดง (SAG - Screen Actors Guild) ตัวเก็งของสาขา นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (คริสเตียน เบล) และสมทบหญิงยอดเยี่ยม (เอมี อดัมส์) และเป็นตัวเก็งติดโผรายชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำมากถึง 6 รางวัล (ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ประเภทดราม่า, ผู้กำกับยอดเยี่ยม - เดวิด โอ รัสเซส, นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ประเภทดราม่า - มาร์ก วอห์ลเบิร์ก, นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ประเภทดราม่า คริสเตียน เบล, นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ประเภทดราม่า - เอมี อดัมส์ และนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ประเภทดราม่า - เมลิสซา ลีโอ) และเวทีใหญ่อย่างออสการ์อีกด้วย

          -  อัด แน่นไปด้วยที่สุดของนักแสดงชั้นแนวหน้ายอดฝีมือของฮอลลีวู้ด ไม่ว่าจะเป็น มาร์ก วอห์ลเบิร์ก (เคยถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ จาก The Departed) รับบทนักมวยที่ไม่เคยได้ลิ้มรสเกียรติยศแห่งชัยชนะเลยสักครั้งในชีวิตแล้ว ยังเป็นผู้อำนวยการสร้างอีกด้วย ร่วมด้วย คริสเตียน เบล (The Dark Knight), เอมี อดัมส์ (ผู้ถูกเสนอชื่อเข้าชิง 2 รางวัลออสการ์ จากเรื่อง Doubt และ Junebug) และ เมลิสซา ลีโอ (ผู้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ จาก Frozen River)

เรื่องย่อ The Fighter


          ชีวิตจริงของนักชกรุ่นไลต์เวลเตอร์เวต "ไอริช" มิคกี้ วอร์ด (มาร์ก วอห์ลเบิร์ก) ผู้ไม่เคยชนะในสังเวียนไหนเลย แม้แต่ในสังเวียนแห่งชีวิต เขาหวังที่จะเอาดีในการเป็นนักมวยมาตลอด และพยายามฮึดสู้อีกครั้ง โดยมีพี่ชายขี้ยาต่างพ่อที่ชื่อ ดิกกี้ เอ็คลันด์ (คริสเตียน เบล) เป็นเทรนเนอร์ให้ ตลอดชีวิตเขาถูกแม่บงการ (เมลิสซา ลีโอ) บังคับให้ดำเนินชีวิตตามที่เธอต้องการเสมอ โชคยังดีที่เขาได้พบกับชาร์ลีน (เอมี่ อดัมส์) แฟน สาวที่เปิดให้เห็นถึงความจริงว่า ภาระที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือความรับผิดชอบที่มีต่อครอบครัว ที่กลายมาเป็นอุปสรรคสำคัญของการก้าวขึ้นสู่แชมป์บนสังเวียนผืนผ้าใบแห่ง นี้ 

เบื้องหลังงานสร้าง The Fighter

          "พี่ชายผมน่ะเหรอ? เขาสอนผมทุกอย่างถ้าไม่มีเขา ก็ไม่มีผม"
มิกกี้ วอร์ด กล่าว

          จากแรงบันดาลใจโดยเรื่องจริงอันน่าเหลือเชื่อสู่เรื่องเล่าแห่งชีวิต แฝงอารมณ์สุดประทับใจ ย้อนตำนานวีรบุรุษนักชกผู้ไม่เคยท้อ "ไอริช" มิกกี้ วอร์ด (มาร์ก วอห์ลเบิร์ก) กับพี่ชายร่วมมารดา ดิกกี้ เอ็คลันด์ (คริสเตียน เบล) ซึ่งเคยแยกจากกันเพราะความต่างขั้ว ก่อนจะกลับมาเป็นพี่เป็นน้องกันอีกครั้ง ร่วมกันฝ่าฟันไปบนหนทางแห่งแชมเปี้ยนที่ยาวไกล พร้อม ๆ กับกระชับสัมพันธ์ให้แนบแน่นเพื่อคงความเป็นครอบครัว

          ถึงแม้ว่า The Fighter จะใช้เวลาในการสร้างสรรค์นานหลายปี แต่ในส่วนของการถ่ายทำกลับใช้เวลาเพียง 33 วันบนถนนสายผู้ใช้แรงงานในเมืองโลเวลล์ รัฐแมสซาชูเซตส์ โดยทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นจากการที่ผู้คุมงานสร้าง เดวิด โฮเบอร์แมน และ ทอดด์ ลีเบอร์แมน นิยมชมชอบเรื่องราวระหว่างมิกกี้กับดิกกี้ ซึ่งทั้งสองมองว่าไม่ใช่แค่เรื่องชัยชนะบนสังเวียนของนักมวยนอกสายตา

          มาร์ก วอห์ลเบิร์ก ที่เป็นทั้งผู้คุมงานสร้างและนักแสดงนำ พร้อมด้วย เดวิด โอ.รัสเซล ในฐานะผู้กำกับ และบรรดานักแสดงกับทีมเบื้องหลังที่สนิทสนมกลมเกลียวกันเป็นอย่างดี ต่างก็ทุ่มเทกันสุดแรงเพื่อมอบลมหายใจและความสมจริงให้แก่เรื่องราวในครอบ ครัวของมิกกี้และดิกกี้ อันเป็นช่วงเวลาที่มีทั้งสีสันความสนุก ความอ่อนไหว บาดแผล และชัยชนะ ซึ่งจะเผยความเป็นไปภายใต้ชายคาและบนสังเวียนไม่มากไม่น้อยไปกว่ากัน

          เรื่องราวเริ่มขึ้นในช่วงเวลาสาหัสของดิกกี้ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นความภูมิใจของชาวเมืองด้วยการดำเนินรอยตาม ชูการ์ เรย์ เลนเนิร์ด ในขณะเดียวกับที่ มิกกี้ ก็ต้องออกหน้าเป็นนักสู้ของครอบครัวแทน ก้าวเดินไปบนถนนสายอาชีพที่ไม่ถนัดนัก ซึ่งจัดแจงผลักดันโดยผู้เป็นแม่ คือ อลิซ (เมลิสซา ลีโอ) อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีหมัดซ้ายทะลวงไส้ แต่มิกกี้กลับถูกกระหน่ำยับเยินคาสังเวียนอยู่ร่ำไป กระทั่งผ่านพ้นแมตช์ล่าสุดที่ทำเขาเกือบตายจากการปะทะหมัดกับนักชกเหนือชั้น แฟนสาวห้าว ๆ ของเขา ชาร์ลีน (เอมี อดัมส์) จึงโน้มน้าวให้เขาทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน อันหมายถึงพาชีวิตหลุดออกมาจากครอบครัว ดำเนินไปตามเสียงเรียกร้องของหัวใจตัวเอง และฝึกซ้อมโดยไร้เงาของพี่ชายจอมยุ่ง

          ต่อมา เมื่อถึงช่วงเวลาอันเป็นที่สุดของชีวิตในการชกครั้งสำคัญ มิกกี้จึงตระหนักชัดว่าไม่มีทางจะถึงวันนั้นได้หากไร้เงาของพี่ชายและครอบ ครัว เขาเลิกแยแสทัศนคติร้าย ๆ ของใครต่อใคร มุ่งมั่นก้าวไปเพื่อกอบกู้ทุกอย่างคืนมา นำพาดิกกี้ ชาร์ลีน อลิซ และทุกคนในครอบครัววอร์ด/เอ็คลันด์กลับมาอยู่เคียงข้างเขาอีกครั้ง หลังจากนั้นคือชัยชนะไม่ขาดสายที่ทำให้ใครต่อใครในแวดวงกีฬาประหลาดใจที่สุด จากไร้ที่เหยียบยืน มิกกี้จะขึ้นสู่บัลลังก์แชมเปี้ยน กลายเป็นนักสู้ผู้คืนชีพและยืนหยัดสัตย์ซื่อต่อกรกับอุปสรรคทั้งปวงเพื่อ ครอบครัว

          "The Fighter คือหนังที่ว่าด้วยเรื่องครอบครัว ความรัก ความสัมพันธ์ และการเอาชนะชะตากรรมเลวร้าย ความเป็นดราม่าในเรื่องนั้นทรงพลังมาก ส่วนภาพการชกมวยก็ตื่นเต้นไม่น้อย" มาร์ก วอห์ลเบิร์ก ซึ่งต้องฝึกมวยอย่างหนักอยู่หลายปีเพื่อสร้างสภาพร่างกายและสภาพอารมณ์ให้ เหมาะสมกับการแสดงนำเป็น มิกกี้ วอร์ด อธิบาย "เดวิด โอ.รัสเซล มองขาดจริง ๆ ทั้งบทหนัง โลกในหนัง และผู้คนที่โลดแล่นอยู่ในนั้น เขาใส่จิตวิญญาณดุดันลงไปในหนัง ส่วนเรา เขาว่ายังไงก็ว่าตามกัน"
          Paramount Pictures และ Relativity Media โดยความร่วมมือของ The Weinstein Company ภูมิใจเสนอ The Fighter ผลงานร่วมสร้างของ Relativity Media, Mandeville Films และ Closest to the Hole Production หนึ่งในงานกำกับโดย เดวิด โอ.รัสเซล (Spanking the Monkey, Flirting with Disaster, Three Kings) นำแสดงโดย นักแสดงผู้เข้าชิง Oscar มาร์ก วอห์ลเบิร์ก (จาก The Departed), คริสเตียน เบล (จาก The Dark Knight, Terminator Salvation, Batman Begins), นักแสดงผู้เข้าชิง Oscar เอมี อดัมส์ (จาก Enchanted, Doubt, Julie & Julia) และนักแสดงผู้เข้าชิง Oscar เมลิสซา ลีโอ (จาก Frozen River, 21 Grams, The Dry Land) บทภาพยนตร์โดย สกอตต์ ซิลเวอร์ (8 Mile) และ พอล ตามาซี (Air Bud) กับ เอริก จอห์นสัน  จากเรื่องราวโดย คีธ ดอร์ริงตัน, พอล ตามาซี และ เอริก จอห์นสัน ผู้คุมงานสร้าง ได้แก่ เดวิด โฮเบอร์แมน, ทอดด์ ลีเบอร์แมน, ไรอัน คาวานอฟ, นักแสดงผู้เข้าชิงออสการ์ มาร์ก วอห์ลเบิร์ก, โดโรธี โอฟิเอโร และ พอล ตามาซี ร่วมอำนวยการสร้างโดย ทักเกอร์ ทูลีย์, ดาร์เรน อโรนอฟสกี, เลสลี แวร์เริลแมน, คีธ ดอร์ริงตัน และ เอริก จอห์นสัน ประสานงานสร้างโดย เจฟฟ์ แวกซ์แมน และ เคนเนธ ฮัลสแบนด์




The Fighter

The Fighter

The Fighter

The Fighter

The Fighter

The Fighter

The Fighter

The Fighter

The Fighter



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

Little Fockers

Little Fockers



Little Fockers

Little Fockers


ดูอื่นๆจากวีดิทัศน์แนะนำความคิดเห็นแบ่งปันส่งรายการโปรดTwitterFacebook


ตัวอย่าง Little Fockers เขยซ่าส์ หลานเฟี้ยว ขอเปรี้ยวพ่อตา



เขยซ่าส์ หลานเฟี้ยว ขอเปรี้ยวพ่อตา (UIP)

กำหนดฉาย : 27 มกราคม 2554
แนว : คอมเมดี้
นำแสดง : โรเบิร์ต เดอ นีโร, เบน สติลเลอร์, โอเว่น วิลสัน, ไบลธ์ แดนเนอร์, เทอรี่ โปโล, เจสซิก้า อัลบ้า, ลอรา เดิร์น, บาร์บรา สไตรแซนด์
กำกับ : พอล ไวทซ์
เว็บไซต์ทางการภาพยนตร์

          เป็นเวลานานมากกว่าหนึ่งทศวรรษแล้ว ที่ภาพยนตร์ตลกแฟรนไชส์เรื่องหนึ่งได้เฉลิมฉลองความเฮฮาที่เกิดจากข้อ บกพร่องและความแตกร้าวที่รู้กันภายในกลุ่มเพื่อน ๆ และครอบครัว Meet the Parents และ Meet the Fockers ซึ่งไต่ระดับทำรายได้ทั่วโลกรวมกันไปมากกว่า $800 ล้าน ก็คือผลงานที่แนะนำให้พวกเราคนดูได้รู้จักกับตัวละครอันเป็นที่รักที่สุดใน แวดวงภาพยนตร์ตลกยุคใหม่นี้ บัดนี้ ภาคที่ 3 ของภาพยนตร์ชุดยอดนิยม ได้ก้าวสู่อีกก้าวหนึ่งของชีวิต และนำเสนอผลกระทบสุดฮาที่มีต่อชีวิตแต่งงานและครอบครัว นั่นก็คือเรื่องของการเลี้ยงดูลูก ๆ

          ขอต้อนรับกลับคืนสู่ความสุขผสมฮาที่ได้เห็น แจ็ค เบิร์นส์ (นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์ โรเบิร์ต เดอ นีโร) และ เกร็ก ฟ็อคเกอร์ (เบน สติลเลอร์) ต้องมาปะทะฝีมือและฝีปากกันอีกครั้งในภาพยนตร์เรื่อง Little Fockers  ร่วม สร้างเสียงฮากับ เดอ นีโร และสติลเลอร์ ในภาพยนตร์ตลกเรื่องนี้ ก็คือ ทีมนักแสดงชุดเดิมที่กลับมาพร้อมหน้า ไม่ว่าจะเป็น โอเว่น วิลสัน, เทอรี่ โปโล, ไบลธ์ แดนเนอร์ และนักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์ ดัสติน ฮอฟฟ์แมน และบาร์บร่า สตรัยแซนด์ และในภาคล่าสุดของภาพยนตร์ฮิตไปทั่วโลกเรื่องนี้ เรายังได้พบกับ เจสซิก้า อัลบ้า, ลอร่า เดิร์น และฮาร์วี่ย์ ไคเทล อีกด้วย

          เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นในปี  2000 ด้วยอารมณ์หงุดหงิดติดฮาของบุรุษพยาบาล เกร็ก ฟ็อคเกอร์ เมื่อเขาพยายามสร้างความประทับใจให้กับพ่อแม่ของแฟนสาว แต่กลับลงเอยด้วยการต้องต่อกรกับผู้เป็นใหญ่ในบ้านอย่าง แจ็ค เบิร์นส์ คนดูทั่วโลกต่างตอบรับภาพยนตร์สุดฮาเรื่องนี้ รวมไปถึงฉากอันน่าประทับใจที่สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่เกิดขึ้นกับครอบ ครัวทุกวัน

          ฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมาอีกรอบในปี 2004 เมื่อเกร็กต้องแนะนำพ่อแม่สุดประหลาดของเขาให้ว่าที่พ่อตาแม่ยายได้รู้จัก และพยายามประคองสถานการณ์ที่พร้อมระเบิดเป็นจุณนี้โดยต้องไม่ให้ตัวเองหลุด โผจากวงจรแห่งความไว้ใจของแจ็ค ในที่สุด ภาพยนตร์แฟรนไชส์เรื่องนี้ก็ต้องคลอดออกมาอีกภาคเมื่อคนดูดูจะยังไม่หนำใจ กับการได้เห็น แจ็ค, เกร็ก และสมาชิกของทั้งสองครอบครัวสุดป่วน อันที่จริง Meet the Fockers กลายเป็นภาพยนตร์ตลกที่ทำรายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ของยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส และยังเป็นที่สอง รองก็แต่เรื่อง Home Alone เท่านั้นในฐานะภาพยนตร์ตลกที่ใช้คนแสดงที่ประสบความสำเร็จที่สุดในเรื่องของ การทำรายได้

          บัดนี้ ถึงเวลาแล้วที่จะได้พบกับสมาชิกตัวน้อย ๆ ของครอบครัวฟ็อคเกอร์ เริ่มจาก ซาแมนธา (เดซี่ ทาแฮน จากผลงานทางทีวีเรื่อง Nurse Jackie) และ เฮนรี่ (คอลิน ไบอ็อคชี่ จาก Couples Retreat) ขณะ ที่หนังนำเสนอเรื่องราวการลองผิดลองถูกของครอบครัวนี้ที่กำลังขยายใหญ่ขึ้น รวมไปถึงพัฒนาการของภาพยนตร์ชุดเรื่องนี้ที่ถือกำเนิดจากเรื่องราวของการคบ หากัน แต่งงานกัน และมีลูก

          เวลาผ่านไปสิบปี มีฟ็อคเกอร์น้อย ๆ 2 คน กับ แพม ผู้เป็นภรรยา (โปโล) กับ อุปสรรคนานัปการกว่าที่เกร็กจะสามารถก้าวเข้าไปสนิทชิดเชื้อกับพ่อตาสุดโหด อย่าง แจ็ค ได้ อย่างไรก็ดี หลังจากคุณพ่อรับงานพิเศษในบริษัทยาแห่งหนึ่งที่มีเพื่อนร่วมงานสุดเซ็กซี่ นิสัยขี้ระแวงของแจ็คก็ผงาดกลับมาอีก

          คงไม่มีทางที่เกร็กจะเจอช่วงเวลาที่เลวร้ายไปกว่านี้แล้ว เมื่อเขาต้องคอยสนองความต้องการเพื่อสร้างความประทับใจให้กับอาจารย์ใหญ่ (เดิร์น) ของโรงเรียนเอกชนอันทรงเกียรติเพื่อลูกแฝดของเขา และต้องจัดการกับผู้รับเหมา (ไคเทล) ที่ทำการซ่อมแซมปรับปรุงบ้านล่าช้าเสียใจบ้านในฝันของพวกเขาอาจเสร็จไม่ทัน งานเลี้ยงวันเกิดของลูก ๆ ขณะเดียวกันก็ต้องคอยป้องกันการพัวพันอีรุงตุงนังของ ตัวแทนบริษัทยาสาวสวยระดับนางงาม (อัลบ้า) ซึ่งเกร็กต้องร่วมงานด้วย

          ขณะที่ทั้งตระกูลฟ็อคเกอร์และเบิร์นส์ อันประกอบไปด้วยพ่อแม่ของ เกร็ก เบอร์นี่ (ฮอฟฟ์แมน) และ รอซ (สตรัยแซนด์), แจ็คกับไดน่า (แดนเนอร์) และ คนรักเก่าของแพม เควิน (วิลสัน) เดิน ทางมาเพื่อร่วมงานวันเกิดนี้ เกร็กต้องพิสูจน์ให้แจ็คที่กำลังตั้งข้อสงสัย ให้เห็นว่าเขามีความสามารถเต็มขั้นในฐานะเจ้าบ้าน และเตรียมเข้ารับตำแหน่งผู้นำตระกูลฟ็อคเกอร์ แต่ด้วยความเข้าใจผิดทั้งหมดทั้งมวล การแอบตามสืบ และภารกิจลับ เกร็กจะผ่านการทดสอบสุดท้ายของแจ็คได้หรือไม่ เพื่อจะกลายมาเป็นผู้นำคนต่อไปของครอบครัว หรืองานนี้วงจรแห่งความไว้ใจจะแตกไปเสียแล้ว

          กำกับโดย พอล ไวทซ์ (American Pie, In Good Company), Little Fockers อำนวยการสร้างโดย เจน โรเซนธัล (Meet the Parents, Meet the Fockers), โรเบิร์ต เดอ นีโร, เจย์ โร้ช (Meet the Parents, Meet the Fockers) และ จอห์น แฮมเบิร์ก (I Love You, Man, Meet the Fockers) ซึ่งร่วมเขียนบทร่วมกับ ลาร์รี่ สตัคกี้ (Elling)
          ทีมงานหลังกล้องประกอบไปด้วยผู้ที่เคยร่วมงานกับไวทซ์และสติลเลอร์มานาน อย่าง ผู้กำกับภาพ เรมี่ อาดีฟาเรซิน (In Good Company, Elizabeth), โปรดักชั่น ดีไซเนอร์ วิลเลี่ยม อาร์โนลด์ (In Good Company, Magnolia), ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย มอลลี่ แม็กกินนิส (Role Models, In Good Company) และทีมลำดับภาพ เกร็ก เฮย์เด้น (Tropic Thunder, Zoolander), เลสลี่ โจนส์ (Cirque du Freak: The Vampire’s Assistant, Punch-Drunk Love) และไมรอน เคิร์สตีน (In Good Company, Garden State)

          Little Fockers อำนวยการสร้างบริหารโดย แนนซี่ เทนเนนบาวม์ (Meet the Fockers), แดเนียล ลูปี (50 First Dates), เมแกน ไลเวอร์ส, แอนดรูว์ มีอาโน่ (Nick & Norah’s Infinite Playlist) และ ไรอัน คาวานัฟ (Zombieland)



Little Fockers

Little Fockers











ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
 

วันศุกร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2554

Child's Eye 3D

Child's Eye 3D



Child's Eye 3D

Child's Eye 3D


ดูอื่นๆจากวีดิทัศน์แนะนำความคิดเห็นแบ่งปันส่งรายการโปรดTwitterFacebook


ตัวอย่างหนัง Child's Eye 3D ผีทะลุตา 3 มิติ





ผีทะลุตา 3 มิติ (มงคลภาพยนตร์)

กำหนดฉาย : 3 กุมภาพันธ์ 2554
แนว : สยองขวัญ
ยาว : 97 นาที
นำแสดง : เรนนี่ หยาง (ซีรี่ย์ รักใสๆ หัวใจ 4 ดวง, ถึงร้ายก็รัก, Spider Lillies), ชอน หยู (Infernal Affairs II-III, Reign of Assassins), เอลแลน กวง (Invisible Target, ซีรี่ย์ E.U.), หลินเจียต้ง (Infernal Affairs II-III, Ip Man, Sparrow)
กำกับ : อ็อกไซด์ แปง, แดนนี่ แปง
อำนวยการสร้าง : แดนนี่ แปง, ออกไซด์ แปง (คนเห็นผี, ฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า)

เรื่องย่อ Child's Eye 3D


          การ กลับมาของสองพี่น้องตระกูลแปง แดนนี่ และ ออกไซด์ กับการกำกับหนังสยองขวัญสามมิติเรื่อง Child's Eye 3D หรือ "คนเห็นผี" ภาคล่าสุด ที่เดินทางมาถ่ายทำในประเทศไทยตลอดทั้งเรื่อง นำแสดงโดย เรนนี่ หยาง ป็อปไอดอลชาวไต้หวัน ที่มีผลงานละครเรื่องฮิตอย่าง รักใส ๆ หัวใจ 4 ดวง และถึงร้ายก็รัก, ชอน หยู จาก Internal Affairs II และ Reign of Assassins, และ เอลแลน กวง ป็อปไอดอลชาวจีน ที่มีผลงานการแสดงในหนังคุณภาพเรื่อง Invisible Target

          Child's Eye 3D เป็นเรื่องราวของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกงที่ติดอยู่ในกรุงเทพ เนื่องจากเหตุการณ์ปิดสนามบิน เรนนี่ (เรนนี่ หยาง) กับ กง (ชอน หยู) แฟนหนุ่มที่กำลังจะเลิกกับเธอ รวมถึงเพื่อนอีก 4 คนต้องพักอยู่ในเกสต์เฮ้าส์ราคาถูก แค่เพียงวินาทีแรกที่เช็คอินเข้าที่พัก เรนนี่ก็รู้สึกถึงความผิดปกติในสถานที่แห่งนี้ ไม่ช้าเหตุการณ์สยองก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อเพื่อนของ เรนนี่ หายตัวไปทีละคนสองคน เธอต้องพยายามเอาตัวรอดก่อนที่ตัวเองจะเป็นเหยื่อรายต่อไป...



เกร็ดภาพยนตร์

          • Child's Eye 3D เป็นหนังสยองขวัญสามมิติเรื่องแรกของฮ่องกง และถือเป็นหนังสยองขวัญเรื่องล่าสุดในแฟรนไชส์ "คนเห็นผี" ของ พี่น้องแปง โดยหนังได้เปิดฉายรอบปฐมทัศน์โลกในงานเทศกาลหนังเมืองเวนิซ ซึ่งก็ได้เสียงตอบรับที่ดีจากผู้จัดจำหน่ายทั้งในอเมริกาและยุโรป

          • Child's Eye 3D เข้าฉายแล้วในสามประเทศภูมิภาคอาเซียน และเปิดตัวเป็นอันดับหนึ่งในสัปดาห์แรกทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ฮ่องกง (16.5 ล้านบาท), มาเลเซีย (16.15 ล้านบาท) และ สิงค์โปร์ (11.73 ล้านบาท) โดยหนังทำรายได้เปิดตัวสูงกว่าหนังสยองขวัญของ พี่น้องแปง เรื่องที่ผ่านมาอย่าง Re-cycle และ The Messengers และทำรายได้เปิดตัวสูงกว่าหนังสยองขวัญสามมิติเรื่องล่าสุดของเอเชียอย่าง The Shock Labyrinth กว่าสองเท่า

          • Child's Eye 3D ถ่ายทำในกรุงเทพตลอดทั้งเรื่อง โดยนักแสดงนำอย่าง เรนนี่ หยาง ที่แจ้งเกิดจากละครสุดฮิตเรื่อง "รักใส ๆ หัวใจ 4 ดวง" รับบทเป็นเพื่อนสนิทของ ซันไช่ โดยเธอได้พูดถึงการเดินทางมาถ่ายทำในเมืองไทยว่า "ฉันคิดว่ากรุงเทพเป็นเมืองที่มีสีสันที่สุดในอาเซียน ขณะเดียวกันก็มีอีกด้านหนึ่งของเมืองที่เกี่ยวกับภูติผีปีศาจและจิตวิญญาณ ในช่วงถ่ายทำฉันยังตื่นเช้าเพื่อไปไหว้พระพรหม ขอให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีกระแสตอบรับและรายได้ที่ดี และถ้าคำอธิษฐานกลายเป็นจริง ฉันก็สัญญาว่าจะกลับมากรุงเทพเพื่อแก้บน"



Child's Eye 3D

Child's Eye 3D

Child's Eye 3D

Child's Eye 3D

 Child Eye 3D

 Child Eye 3D

 Child Eye 3D

 Child Eye 3D

Alpha and Omega

Alpha and Omega


Alpha and Omega

Alpha and Omega


ดูอื่นๆจากวีดิทัศน์แนะนำความคิดเห็นแบ่งปันส่งรายการโปรดTwitterFacebook


ตัวอย่าง Alpha and Omega 




เผ่าซ่าส์ ป่าเขย่า หฤหรรษ์เฮฮา (มงคลเมเจอร์)

กำหนดฉาย : 20 มกราคม 2554
แนว : สามมิติ, การ์ตูน
ยาว : 88 นาที
ให้เสียงพากย์ โดย : จัสติน ลอง (Die Hard 4, He's Just Not That Into You), เฮย์เดน พาเนทเทียร์ (ซีรี่ย์ Heroes), คริสติน่า ริชชี่ (Speed Racer, Penelope), แดนนี่ โกลเวอร์ (Lethal Weapon ทั้งสี่ภาค)
กำกับ : แอนโธนี่ เบล, เบน กลัค
บท : สตีฟ มัวร์ (Open Season)
อำนวยการสร้าง : ริชาร์ด ริช (The Fox and the Hound)
เว็บไซต์ทางการภาพยนตร์

เรื่องย่อ Alpha and Omega 

          ฮัมฟรีย์ (ให้เสียงโดย จัสติน ลอง) เป็นหัวหน้าหมาป่ากลุ่มโอเมก้า เขามีไหวพริบและใช้ชีวิตกับฝูงหมาป่าวัยรุ่น คติพจน์ของเขาคือ "ทำให้ทุกคนหัวเราะ" ในขณะที่ เคท (ให้เสียงโดย เฮย์เดน พาเนทเทียร์) เป็นหัวหน้าหมาป่ากลุ่มอัลฟ่า เธอรู้หน้าที่ของตัวเองและมีระเบียบวินัย คติพจน์ของเธอคือ "ฉันคือเจ้านายทุกคน" แต่แล้ว เคท และ ฮัมฟรีย์ หมาป่าสองตัวที่ไม่มีอะไรเหมือนกัน ก็ถูกจับตัวโดยเจ้าหน้าที่เขตป่าสงวนและส่งถูกข้ามประเทศ ทำให้ทั้งคู่ต้องร่วมกันเดินทางไปกว่า 1,000 ไมล์เพื่อหาทางกลับบ้าน

          ทั้ง สองต้องออกผจญภัยข้ามภูเขาสูง เผชิญหน้ากับสิงห์รถบรรทุก หมีขี้โมโห ตัวเม่นเบื่อโลก และอีแร้งนักกอล์ฟที่มีเป็ดเป็นแค็ดดี้คู่ใจ ในขณะเดียวกันหมาป่าสองกลุ่มที่ขาดผู้นำก็เริ่มมีปัญญา และมีเพียง เคท และ ฮัมฟรีย์ เท่านั้นที่จะยุติเรื่องราวทั้งหมด... เพียงแต่พวกเขาต้องรีบกลับไปให้ทันนะ

เกร็ดภาพยนตร์

          • Alpha and Omega เป็นผลงานการสร้างของ ริชาร์ด ริช ที่เคยกำกับการ์ตูนดิสนี่ย์คลาสสิกมาแล้วอย่าง The Fox and the Hound (เพื่อนแท้ในป่าใหญ่) โดยได้ทีมนักแสดงชื่อดังมาให้เสียงพากย์ ไม่ว่าจะเป็น จัสติน ลอง จาก Die Hard 4 และ He's Just Not That Into You, เฮย์เดน พาเนทเทียร์ จากซีรี่ย์ Heroes, คริสติน่า ริชชี่ จาก Speed Racer และ Penelope, แดนนี่ โกรเวอร์ จาก Lethal Weapon ทั้งสี่ภาค และ เดนนิส ฮอปเปอร์ นักแสดงในตำนานกับผลงานเรื่องสุดท้าย

          • Alpha and Omega ดูแลเรื่องเอฟเฟคและเทคโนโลยีสามมิติโดย มิเชล เจค็อบ มือเอฟเฟ็คที่มีผลงานในหนังบล็อคบัสเตอร์มากมายอย่าง Transformers ภาค 1 และ 2, Star Trek และ The Mummy: Tomb of the Dragon Emperor และยังได้ คริส เชอร์ร็อด ผู้ออกแบบตัวละครที่เคยมีผลงานมาแล้วใน Kung Fu Panda และ The Ant Bully



Alpha and Omega

Alpha and Omega

Alpha and Omega

Alpha and Omega

Alpha and Omega

Alpha and Omega



Alpha and Omega

Alpha and Omega

Alpha and Omega

Alpha and Omega

Alpha and Omega

Alpha and Omega

Alpha and Omega

Operation Endgame


Operation Endgame


Operation Endgame

Operation Endgame


ดูอื่นๆจากวีดิทัศน์แนะนำความคิดเห็นแบ่งปันส่งรายการโปรดTwitterFacebook


ตัวอย่าง Operation Endgame



Operation Endgame (มงคลเมเจอร์)

กำหนดฉาย : 13 มกราคม 2554 (โรงภาพยนตร์เฮ้าส์ อาร์ซีเอ)
แนว : ตลก, แอ็คชั่น
ยาว: 87 นาที
นำแสดง : แม็กกี้ คิว, เอลเลน บาร์กิ้น, แซ็ค กาลิฟิอานาคิส, วิง เรห์มส์, โอเด็ตต์ ยัสต์แมน
กำกับ : ฟอด มิคาติ

          เตะ! ฟัด! อัด! กะซวก! มหกรรมล้างบางสนั่นโลก เมื่ออาคารสำนักงานถูกเปลี่ยนเป็นสนามรบ! หนังบ้า-เดือด-เลือดพล่านที่คุณโหยหา
เรื่องย่อ Operation Endgame

          นักแสดงสาวสุดเซ็กซี่ แม็กกี้ คิว มาปะทะกับนักแสดงตลกดาวรุ่ง แซ็ค กาลิฟิอานาคิส (The Hangover) และสาวใหญ่สุดแสบ เอลเลน บาร์กิ้น ในหนังแอ็คชั่น-ตลกที่อาจจะครองตำแหน่ง "ไร้สติ" แห่งปีไปครองได้สบาย ๆ เนื่องจากพล็อตเรื่องที่เขียนกันอย่างเอามันส์มา กๆ

          Operation: Endgame เล่าเรื่องของทีมนักฆ่า 2 ทีมของรัฐบาลที่ต้องมาห้ำหั่นกันเอง โดยสนามรบของพวกเขาคือ ชั้นใต้ดินของอาคารสำนักงานแห่งหนึ่ง! ซึ่งอาวุธของพวกเขา นอกจากอาวุธสงครามหนัก ๆ แล้ว ก็ยังมีอุปกรณ์สำนักงานอีกสารพัดอย่าง ที่เหล่านักฆ่ามืออาชีพ นำมาดัดแปลงเป็นอาวุธ
          ความสนุกหลัก ๆ ของ Operation: Endgame นอกเหนือจากฉากแอ๊คชั่นสุดระห่ำ ระเบิดกันตูมตามแล้ว หนังยังจงใจล้อเลียนหนังนักฆ่า และหนังว่าด้วยสายลับรัฐบาลทั้งหลายอย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์ ลูกบ้าสารพัดชนิดในหนังเรื่องนี้ โดย ผู้กำกับ ฟอด มิคาติ (ผู้กำกับหนังโฆษณาชื่อดัง) อาจจะทำให้คุณนึกถึง เควนติน ตารันติโน และ โรเบิร์ต โรดริเกซ สมัยที่ยังทำหนังทุนต่ำอยู่



Operation Endgame

Operation Endgame

Operation Endgame

Operation Endgame



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
ครีมหมอจุฬา,ครีมจุฬาลักษมี กลูต้าไธโอน,กลูตาไธโอน,กลูต้าเจล,กลูต้าน้ำ,อาหารเสริมเพื่อผิวขาว,ครีมหน้าขาว,ครีมรกแกะ,เซรั่มรกแกะ,รกแกะเม็ด ,เซรั่มหน้าใส,กาแฟลดน้ำหนัก,กาแฟลดความอ้วน,ลิโซ่,สมุนไพรลดน้ำหนัก,reductil,รักษาผมร่วง